ประวัติ ของพระยาวิชิตสงคราม หรือ พระยาภูเก็ตโลหเกษตรารักษ์ ( ทัด ) เป็นเจ้าเมืองภูเก็ต เมื่อปี พ . ศ . 2393 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 4 สืบเชื้อสายมาจากพระยาถลาง (เจิม) ซึ่งมีศักดิ์เป็นปู่ และเป็นบุตรชายของพระภูเก็ต ( แก้ว ) เมื่อพระยาวิชิตสงครามเป็นเจ้าเมืองภูเก็ตสืบต่อจากบิดา ได้ย้ายเมืองมาอยู่ที่ตำบลทุ่งคา (อยู่ทางตอนใต้ของเกาะภูเก็ต) เนื่องจากบริเวณนี้เป็นแหล่งแร่ดีบุกที่อุดมสมบูรณ์ ต่อมาเมืองภูเก็ตเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่าเมืองถลาง จึงได้รับการยกฐานะเป็นหัวเมืองขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ เมื่อปี พ . ศ . 2405 พระยาวิชิตสงครามได้ชักชวนพ่อค้าชาวจีนมาลงทุนทำกิจการค้า
และเหมืองแร่ใน ภูเก็ต ส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจของเมืองภูเก็ต
เจริญมั่งคั่งกว่าหัวเมืองอื่น ๆ ในแถบนี้

แต่ในขณะเดียวกันก็ก่อให้เกิดเหตุจลาจลวุ่นวายหลายครั้ง เนื่องจากการทะเลาะวิวาทของกรรมกรเหมืองแร่ชาวจีน หรือพวกอั้งยี่ เพื่อแย่งชิงแหล่งแร่ดีบุกและสายน้ำล้างแร่ พระยาวิชิตสงครามจึงย้ายบ้านและศาลาว่าการไปอยู่ที่บ้านท่าเรือในที่ดินของ พระยาถลาง ( เจิม ) โดยสร้างกำแพงและป้อมปราการป้องกันอย่างแข็งแรง พระยาวิชิตสงครามได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าภาษีอากรรับผูกขาดผลประโยชน์ ในเมืองภูเก็ตทั้งหมด ต้องแข่งขันประมูลภาษีในอัตราที่สูงมากด้วยคาหมายว่าจะสามารถจัดเก็บภาษีมา ส่งให้รัฐบาลได้ทันตามกำหนด แต่ต่อมาไม่นานราคาดีบุกในตลาดโลกตกต่ำ ในปี พ . ศ . 2425 พระยาภูเก็ต ( ลำดวน ) ซึ่งเป็นลูกชายไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้ทันจึงต้องคืนการจัดเก็บภาษีให้กับ รัฐบาล รัฐบาลจึงแต่งตั้งให้พระยาภูเก็ต ( ลำดวน ) เป็นเจ้าพนักงานจัดเก็บภาษี แต่เนื่องจากได้ติดค้างเงินภาษีไว้จำนวนมาก จึงถูกปลดออกจากตำแหน่งและส่งตัวไปเร่งรัดภาษีที่กรุงเทพฯ และถูกริบบ้านเรือนและทรัพย์สินต่าง ๆ ในที่สุด

การเดินทาง จากตัวเมืองไปตามถนนเทพกระษัตรีหรือทางหลวงหมายเลข 402  ประมาณ 12 กิโลเมตร บ้านพระยาวิชิตสงครามตั้งอยู่ทางขวามือใกล้กับศาลเจ้าท่าเรือ เลี้ยวเข้าไปในซอยหัวท่าประมาณ 50 เมตร และเลี้ยวซ้ายอีกครั้งหนึ่งเพื่อเข้าสู่บริเวณบ้านพระยาวิชิตสงคราม

This error message is only visible to WordPress admins

Error: No feed found.

Please go to the Instagram Feed settings page to create a feed.